Monday, 27 March 2023

หนุ่มไรเดอร์ ช็อก ถูกแจ้งความ 14 โรงพัก หลังรับจ้างเปิดบัญชีม้า เหยื่อสูญกว่า 2.8 ล้าน

หนุ่มไรเดอร์ เปิดอุทาหรณ์ ถูกแจ้งความ 14 โรงพัก หลังได้รับจ้างเปิดบัญชีม้า ได้ถูกนำไปหลอกเหยื่อกว่า 2.8 ล้าน เตรียมขี่รถ มอเตอร์ไซค์ไปรายงานตัวกว่า 700 กม.

บทเรียนสอนใจ หนุ่มไรเดอร์รับจ้างเปิดบัญชีม้า ถูกมิจฉาชีพให้เปิดบัญชีธนาคารแต่ไม่ได้ให้เล่มสมุดบัญชีตัวจริง แต่ให้ใช้เบอร์โทรศัพท์ของมิจฉาชีพเปิดเป็นแอปพลิเคชั่น แทน ในเวลาต่อมาถูกธนาคารอายัดบัญชีเพราะว่ามีผู้เสียหายจำนวน 14 ราย เข้าแจ้งความ ก่อนที่จะพบความจริงว่าถูกมิจฉาชีพใช้บัญชีที่เปิดไปหลอกผู้เสียหายจนได้เงินไปกว่า 2.8 ล้านบาท

ซึ่งทำให้หนุ่มไรเดอร์คนนี้กล่าวโพสต์ขอประสบการณ์ในการเดินทางด้วยรถ มอเตอร์ไซค์ เพื่อเตรียมขี่รถ มอเตอร์ไซค์จากจ.นนทบุรี ไปรายงานตัวที่ สภ.เหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี ตามหมายเรียกในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากไม่มีค่ารถที่ใช้ในการเดินทาง

เกี่ยวกับเรื่องราวของไรเดอร์หนุ่มคนดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้คุยกับไรเดอร์หนุ่มที่ได้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่รับซื้อบัญชีธนาคาร คือ นายนิรันดร์ อายุ 42 ปี เป็นไรเดอร์วิ่งรับส่งอาหาร ได้เปิดเผยว่า
เนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนเองออกไปวิ่งรับส่งอาหารตามปกติ ปรากฏว่าตนเองรอออเดอร์งานมาครึ่งวันแต่ก็ยังไม่ได้สักงาน

ต่อมาลูกชายได้โทรมาหาเพื่อขอค่าขนม ซึ่งตนเองก็ไม่มีเงินติดตัวที่จะให้ลูกเลย จึงคิดว่าจะหาเงินยังไงเพื่อนำไปจ่ายขนมให้ลูกก่อน ในช่วงระหว่างที่รองานเด้งนั้น บังเอิญตนนั่งเล่น
มือถือไปเล่นFacebookกลุ่มรับซื้อขายบัญชีธนาคารต่างๆ ตนเองจึงลองทักข้อความไปยังผู้ที่ลงประกาศรับซื้อเพื่อลองติดต่อสอบถามรายละเอียดดู

หนุ่มไรเดอร์

ซึ่ง หนุ่มไรเดอ เองก็ได้สอบถามไปชัดเจนแล้วว่า ต้องการนำบัญชีธนาคารไปทำอะไร

ซึ่งทางมิจฉาชีพที่รับซื้อก็อ้างว่า จะนำบัญชีไปขายต่อให้กับแรงต่างด้าวที่แอบเข้ามาทำงานโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งตนก็ได้ย้ำคำถามไปอีกครั้งว่า ถ้าตนนำบัญชีมาขายต่อให้จะไม่มีจดหมายตามมาใช่ไหม ซึ่งมิจฉาชีพก็อ้างว่าไม่มี

โดยเขาจะให้ค่าจ้างเปิดบัญชีเป็นเงิน 1,000 บาท พร้อมเงินอีก 100 บาท ที่จะต้องใช้ในการเปิดบัญชีกับทางธนาคาร โดยมิจฉาชีพคนนี้บอกเงื่อนไขตนมาว่า เขาอยากให้ตนเองไปเปิดบัญชีของธนาคาร (ขอสงวนชื่อ) โดยให้ใช้
หมายเลขโทรมือถือของเขาผูกกับบัญชีเพื่อเปิดแอปพลิเคชั่นของธนาคารไว้

ด้วยความไม่สังหรณ์ใจและอยากจะหาเงินไปซื้อขนมให้ลูกๆทั้ง 3 คน ตนเองจึงได้ตัดสินใจนำเงิน 100 บาท ที่มิจฉาชีพรายนี้โอนเข้าบัญชีส่วนตัวมาให้ไปเปิดบัญชีให้ไป ซึ่งตนเองก็ได้รับเงินค่าจ้างมาเป็นเงินครั้งละ 500 บาท
ทั้งหมด 2 ครั้ง

นายนิรันดร์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นต่อมา ในวันที่ 17 ก.ย. ได้มีผู้เสียหายรายหนึ่งโทรติดต่อเข้ามาหาตนเอง พร้อมกับสอบถามเรื่องเงินจำนวน 1.4 แสนบาทที่ถูกโอนเข้าบัญชีตนเองมา ด้วยความตกใจและไม่รู้เรื่องว่ามีเงินโอนเข้ามาที่ตนเองได้เปิดไว้เป็นจำนวนมาก จึงได้นัดให้ทางผู้เสียหายเดินทางมาพบกันที่โรงพัก สภ.บางใหญ่ เพื่อที่แสดงความบริสุทธิ์ใจ

ต่อมาผู้เสียหายซึ่งเป็นสามีภรรยาเดินทางมาจากแถวหลักสอง ได้มาพูดคุยกับตนเองแล้ว จึงทราบว่าตนเองก็ถูกมิจฉาชีพหลอกให้ไปเปิดบัญชีมาเช่นกัน จึงให้ตนเองช่วยพยายามติดต่อกับทางมิจฉาชีพรายนี้ในเฟซบุ๊กให้ทีเพื่อที่จะนำข้อมูลมาให้จนท.ตำรวจ แต่ว่าตนเองก็ไม่สามารถติดต่อทุกช่องทางกับมิจฉาชีพรายนี้ได้เลย เพราะว่าถูกบล็อกการติดต่อ

นายนิรันดร์ กล่าวอีกว่า ต่อมาในวันที่ 18 ก.ย. ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปที่ธนาคารที่ตนเองหลงเชื่อเปิดบัญชีให้กัยมิจฉาชีพไว้ จึงทราบความจริงที่น่าตกใจยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเมื่อทางธนาคารตรวจสอบแล้วพบว่า มีผู้เสียหายถึง 14 ราย ที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้นำบัญชีของตนไปหลอกเอาเงินผู้เสียหายมาเป็นเงินทั้งหมด 2,891,209 บาท ก่อนที่จะถูกถอนผ่านแอปฯ ธนาคารออกไปเป็นเงิน 2,885,155 บาท เหลือติดบัญชีไว้เพียง 6,000 บาท

หลังทราบความจริง จากทางธนาคารแล้ว ตนเองเข่าอ่อนแทบทรุดลงกับพื้นธนาคาร เพราะไม่เคยคิดว่าบัญชีที่ตนเองเปิดให้มิจฉาชีพไปเพียงเพื่อ ต้องการนำเงินไป ซื้อขนมให้ลูก จะถูกนำหลอกลวงผู้เสียหายเป็น เงินจำนวนมากขนาดนี้ ตนเองคงไม่มีเงินมากมายขนาดนี้หามาคืนผู้เสียหายได้ทุกคน เพราะว่าทุกวันนี้แค่รับส่งอาหารกับผ่อนจ่ายเงินกู้รายวันก็แทบจะไม่เหลือเงินแล้ว

ไรเดอร์ช็อก ถูกแจ้งความ 14 โรงพัก

นายนิรันดร์ หนุ่มไรเดอร์ กล่าวว่า หลังจากทราบความจริงที่ถูกมิจฉาชีพหลอกเปิดบัญชีแล้ว ตนเองกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายคืน

พยายามฆ่าตัวตาย มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ภรรยากับลูก หนุ่มไรเดอร์ มาช่วยไว้ทัน ต่อมาตนเองได้เคยคิดว่าจะหนีคดีไปให้ไกลๆ เพราะว่าคดีนี้มีผู้เสียหายถึง 14 คน ต่างกรรมต่างวาระ และต่างจังหวัดกันไป ถ้าตนเองหนีคงต้องหนีไปทั้งชีวิตไม่ได้เจอหน้าลูกเมีย แต่ถ้าสู้ความจริงยอมรับว่าความผิดพลาด ที่เกิดขึ้นมาจากเราที่หลงเชื่อมิจฉาชีพเอง อย่างน้อยช่วงที่ติดคุกลูกเมียก็ยังมาเยี่ยมมาเจอกันได้

ทำให้ตนเองตัดสินใจว่า จะยอมก้มหน้ารับความจริงที่เกิดทั้งหมด ไม่หลบหนีไปไหนเพราะว่าตนเองไม่มีเจตนาที่จะไปโกงใคร เพราะถ้าโกงจริงป่านนี้ตนเองกับครอบครัวคงจะสบายไปแล้ว ได้แต่เตรียมทำใจรอรับหมายเรียกต่าง ๆ จากเจ้าทุกข์ผู้เสียหาย

จนกระทั่งต่อมามีหมายเรียกจากจนท.ตำรวจ สภ.เหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี แจ้งให้ตนเองเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้

ด้วยความที่ตนเองไม่ค่อยจะมีค่าเดินทาง จึงได้ตัดสินใจว่าจะขี่ รถ มอเตอร์ไซค์ที่ตนเองใช้วิ่งงานอยู่ เป็นพาหนะเดินทางไปพบจนท.ตำรวจตามหมายเรียกที่อุบลราชธานี ที่มีเจ้าทุกข์แจ้งความไว้เป็นจำนวนเงิน 7.7 หมื่นบาท จึงได้นำเรื่องราวไปสอบถามเพื่อนๆ ในกลุ่มไรเดอร์เพื่อขอคำชี้แนะเส้นทางในการเดินทาง

ไรเดอร์หนุ่ม

นายนิรันดร์ กล่าวเพิ่มอีกว่า ปัจจุบันมีกลุ่มมิจฉาชีพ รับซื้อรับขาย บัญชีธนาคาร เป็นจำนวนมาก หากคนไม่มี ประสบการณ์อาจจะเผลอหลงเชื่อตามคำหลอกลวงของมิจฉาชีพจะเกิดความเสียหายตามมาภายหลังมากกว่าที่คิด ให้ดูกรณีของตนเองเป็นกรณีศึกษา

หากเป็นไปได้ตนเองก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงดิจิตอลและตำรวจไซเบอร์ เร่งปิดกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ในFacebook และอยากให้ช่วยสืบหาต้นต่อของมิจฉาชีพที่หลอกให้ตนเองเปิดบัญชีให้ไปด้วยว่า เงินจำนวนเหล่านี้ถูกโอนต่อไปยังปลายทางที่ไหนด้วย เพื่อติดตามนำกลับมาคืนให้ผู้เสียหายทั้งหมด

อย่าให้พวกมันสบายบนความลำบากของคนอื่น เหมือนครอบครัวตนเองที่กำลังเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ ซึ่งหากตนเองย้อนเวลาได้ตนคงไม่ตัดสินใจแบบนั้นแน่นอน คงจะคิดให้มากกว่านี้